กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่-บริษัทมหาชนรวมน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม จ.อ่างทอง

กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ และกลุ่มบริษัทมหาชน นำโดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ จัดงาน “รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ช่วยผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอ่างทอง

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานดำเนินกิจกรรม และคณะ ประกอบด้วยพล.อ.พงษ์สวัสดิ์ พรรณ์จิตต์ อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, นายนิยม เดิมศรีสุข อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล อดีตประธานการเคหะแห่งชาติ, ดร.วิทยา อินาลา อดีตสมาชิกวุฒิสภาและกรรมการ บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ นำโดย นายพิษณุพงษ์ ถิรโชติภูวนันท์, นายพุฒิพงศ์ พจน์จำเนียร, นายพัชรปรัตถ์ ขาวสะอาด, นิตยสารสต็อกโฟกัส, น.ส.เมชญา แก้วดวงดี บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิง จำกัด (มหาชน), บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิ เนียริ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด และมูลนิธิสันติ ร่วมกันลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คณะทำงาน พร้อมทั้งนายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ได้ลงเรือเข้าในพื้นที่น้ำท่วมสูงเพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่คนชรา ผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง มอบหมาย นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง โดยมี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง, รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง, ปลัดจังหวัดอ่างทอง, หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงการคลัง, จัดหางาน, อัยการคุ้มครองสิทธิ, นายอำเภอป่าโมก, ผกก.สภ.ป่าโมก, ปลัดอำเภอ, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จนท.อบต.โผงเผง, จนท.ทหาร พล.1 รอ.ร่วมอำนวยความสะดวกและร่วมส่งมอบสิ่งของตรงสู่มือผู้ประสบภัย

สำหรับโครงการ “รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ครั้งนี้เกิดจากกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ และกลุ่มบริษัทมหาชน ที่ต้องการเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอ่างทอง จึงได้ร่วมบริจาค และประสานงานกับภาครัฐเพื่อเข้าพื้นที่อุทกภัย โดยได้รับความสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวว่า นับเป็นความร่วมมือที่จัดได้อย่างรวดเร็วระหว่างภาครัฐกับเอกชน เพื่อเป็นกำลังใจให้ประชาชนผู้ประสบภัยทุกคนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เชื่อว่าความร่วมมือลักษณะนี้ นอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาครัฐแล้ว ยังเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีโดยไม่แบ่งรัฐหรือเอกชนอีกด้วย